[Intersection]Doman the Pianist[2/2]
Part 1/2 -> here
==================================
"...นรถไ.......าไปซื้...."
"...าสิ แล้วมาแบ่งกันมั้ย?"
"ขอโทษครับ"
"อ๊ะ ขอโทษค่ะ"
ปิ๊ง ป่อง..
[[ท่านผู้โดยสารทุกคนโปรดทราบ เที่ยวรถไฟไปกลาสโกว์รอบ 9 นาฬิกา 15 นาที...]]
เสียงประกาศไม่คุ้นหูเลย
ไม่ใช่ในทางที่แย่นะ ออกจะนุ่มหูดีด้วยซ้ำ เพราะจากที่ที่ฉันใช้ชีวิตมาและจำได้ เสียงประกาศอะไรก็ตามจะออกอู้อี้และติดๆขัดๆด้วยเสียงรบกวนกว่านี้ ดังนั้นเลยไม่ชินน่ะ
รู้สึกตัวแน่นเป็นพิเศษหน่อยแฮะ
ย อย่าบอกนะว่าฉันน้ำหนักขึ้น
ไม่หรอกมั้ง ยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา
[คุณโดมาน ได้ยินมั้ยครับ?]
"อ๊ะ...เสียงนี้... นายคนนั้นใช่มั้ย อยู่ไหนน่ะ?!"
[อย่าเสียเวลาตามหาเลยว่าผมอยู่ไหน มองเห็นคุณหันซ้ายหันขวาไปมาเหมือนสุนักน่ารักๆแล้วตลกเป็นบ้าเลย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า]
"เฮ้ พาฉันมาทำอะไรที่นี่ เดี๋ยว ที่นี่ที่ไหน?"
ระหว่างที่ฉันพยายามกวาดสายตาซ้าย-ขวา บน-ล่างเพื่อตามหาเจ้าของเสียงที่จู่ๆก็ดังขึ้นมาในหัวฉันอย่างไร้ทิศทางก็ทำให้พบกับสภาพอาคารที่หาได้ยากจากสิ่งที่ฉันเคยเห็นและที่ที่ฉันเคยไป
จริงอยู่ว่าข้างๆตรงนั้น 2 - 3 ชั้นเป็นอาคารก่ออิฐแดง แต่ไม่เคยเห็นการใช้เหล็กขนาดใหญ่สานกันรองรับท้องฟ้ากระจกผืนใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย หน้าจอที่มีตัวอักษรเป็นแสงสีเลื่อนได้ก็ด้วย
พอดูให้ดี.. คนที่แต่งตัวในเครื่องแบบก็เหมือนจะไม่ได้คอยตามล่าหรือจับพวกฉันด้วย
ที่แบลงค์ไปเมื่อกี๊นี่คือถูกลักพาตัวมาต่างประเทศหรือเปล่านะ? แต่พวกเราในเวลาเดียวกันจะวิทยาการแตกต่างกันขนาดนี้เลยอย่างงั้นหรอ?
[อื้ม...ถ้าดูไม่ผิดล่ะก็ สถานีเซนต์ แพนเครียซล่ะมั้ง? ไม่รู้สิ ตัวจริงฉันก็ไม่เคยไป ฮะๆ]
"จะบอกว่าที่นี่ไม่ใช่ของจริงรึไง"
[ก็แล้วแต่คุณอยากจะตีความนะครับคุณโดมาน~]
ปลายทางมีเสียงหัวเราะนึกสนุกอีกครั้ง งานอดิเรกหมอนี่ต้องเป็นการปั่นหัวชาวบ้านให้หงุดหงิดเล่นแน่ๆ
"...ก่อนหน้านี้บอกว่าจะให้ฉันเล่นเปียโนใช่มั้ย"
[ถูกต้องครับผม ลองมองลงไปที่ชั้นล่างใต้บันไดคู่นั้นสิ เห็นเปียโนมั้ยเอ่ย?]
"..อ่าฮะ ของสาธารณะงั้นหรอ?"
[ถูกต้อง ไม่มีใครว่าคุณถ้าคุณอยากจะเล่น ยกเว้นเสียแต่เขาคนนั้นเองก็อยากเล่นแต่โดนคุณแย่ง] สิ้นเสียงก็มีหัวเราะอีกรอบ [อย่างไรก็ตาม ที่ที่นี้ไม่มีหรอกคนที่อยากเล่นน่ะ เพราะฉะนั้นเลยอยากให้คุณช่วยแสดงฝีมือและเปลี่ยนบรรยากาศของที่นี่หน่อย ♥ ]
"หึ" ฉันเผลอไม่ได้ที่จะพับแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย "มาเล้ย ไว้ใจฉันคนนี้"
[สมกับเป็นคนที่ตกรอบการคัดเลือกตัวแทนไปแข่งการประกวดโชแปงเพราะอายุไม่ถึงจริงๆเลยน้า ไว้ใจได้จริงๆด้วย!]
================================================
ผู้โดยสารทั้งหลายไหลสวนผ่านฉันไปเรื่อยๆระหว่างที่กำลังใช้สองเท้าก้าวไปตามทางเดินสู่บันไดคู่ที่เป็นเป้าหมายปลายทาง ทุกๆคนดูโคตรจะไม่มีชีวิตชีวาเลย ใบหน้าไม่มีอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น
เป็นตัวประกอบรึไงกัน?
แต่ทันทีที่ฉันนึกอย่างนั้น หางตาของฉันก็เหมือนตรวจจับบุคคลที่แตกต่างกันออกไปได้อีกคนในบรรดากระแสผู้โดยสาร
"?"
[เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ ถึงจะได้ยินมาว่าเล่นเปียโนเป็นก็เถอะ]
อย่างกับรู้ว่าฉันโดนเขาดึงความสนใจไป
"แต่เขา ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนคนอื่นที่ฉันเดินสวนเลยนะ"
[shhh.. ก็เพราะว่าเขาเป็นอย่างเดียวกันกับพวกเรายังไงล่ะครับ แต่ว่าพวกเราแค่ไม่ลงรอยกันนิดหน่อย]
"เดี๋ยวนะ ถ้าฉันตรวจจับเขาได้ เขาจะไม่รู้สึกถึงฉันที่เป็น...???? อะไรสักอย่างที่ไม่ได้เหมือนคนที่เหลือหรอกหรอ"
[ลูกเศรษฐีใหม่อย่างเขาเป็นเด็กใหม่น่ะ แถมดูจะมีเรื่องอื่นที่ติดใจเป็นพิเศษอยู่แล้วด้วย เพราะฉะนั้นวางใจได้ และเพราะงั้น ผมเลยอย่างยืมแรงคุณโดมานยังไงล่ะ]
ฉันเผลอถอนหายใจออกไปเฮือกนึง เขาจะหาว่าฉันโง่มั้ยนะที่ฉันไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่ตรงนี้ นอกจากรู้สึกตัวว่าเหมือนกำลังอยู่ในโลกจำลอง โลกหลังความตายจะเป็นอะไรก็ได้ล่ะมั้งบางที
"..แล้วคริสล่ะ ฉันจะได้เจอเขามั้ย?"
จู่ๆก็โพล่งความคิดตัวเองออกไปอย่างเถรตรงซะอย่างนั้น
[...หลังจากนี้อาจจะได้เจอล่ะนะ นั่นก็แล้วแต่ว่าเอฟเฟคของคุณจะทำได้แค่ไหนแล้วล่ะ]
"เฮ้! แบบนี้ไม่เข้าข่ายหลอกลวงหรือไง ไอพวกบอกข้อมูลสินค้าบริการไม่ครบ..!"
[ไม่ครบไม่ได้แปลว่าโกหกสักหน่อยนี่] น้ำเสียงปัดความผิดแบบที่แค่ฟังก็รู้ว่าปลายสายกำลังยักไหล่ประกอบอยู่แน่ๆ อดหงุดหงิดไม่ได้ แต่ในโลกน่าจะจำลองแห่งนี้ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน คงต้องเออออตามเขาไปก่อน [ยังคงรอฟังอยู่นะครับ คุณคนที่ควรจะเคยได้เป็นแชมป์ ♥ ]
พูดมากชะมัด...
นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดในใจ และโชคดีพอที่ไม่หลุดออกไปด้วยเหมือนคำถามที่ฉันมีต่ออดีตเพื่อนสนิท
สนิท...
.....สนิทหรือเปล่านะ?
====================================
ระหว่างที่คิดและต่อบทสนทนากับตัวเองในหัว สองขาของฉันก็เหมือนจะลุล่วงภารกิจในการพาตัวเองมาอยู่หน้าอัพไรท์เปียโนหลังที่หลบอยู่ใต้บันไดของสถานีรถไฟแห่งนี้
ว่าด้วยการจัดวาง ฉันเดาว่ามันอาจจะวางกระจายอยู่ตามตำแหน่งต่างๆด้วยอีก ดีจังเลยนะ เปียโนที่เล่นเมื่อไหร่ก็ได้ ที่ไหนก็ได้
และเป็นใครก็ได้...
ฉันหย่อนก้นตัวเองลงนั่งบนเก้าอี้บุหนัง มือขวากวาดไปตามด้านข้างของมันเพื่อหาลูกหมุนปรับระดับที่พอดีกับลำตัวครึ่งล่างของฉันเอง ก่อนจะประสานเข้ากับมือซ้ายแล้วยืดขึ้นบิดขี้เกียจพร้อมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
"ฟู่......... เอาล่ะ"
เพลงอะไรดีนะ
เพลงนี้ก็คงจะดี
นิ้วที่ไล้ไปตามแป้นบรรเลงอินโทรอันเป็นที่จดจำได้ง่าย เปียโนโซนาต้าลำดับที่17 "Tempest" ของบีโทเฟ่น
ถึงจะบอกว่าชอบเล่นเปียโนก็จริง แต่มันนานแค่ไหนกันแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้เล่นเปียโนจริงๆจังๆได้อย่างสบายใจไม่ต้องเตรียมตัวหนีแบบนี้
[...♫♬]
ไม่แน่ใจว่าปลายทางของเสียงพูดอะไรโต้ตอบฉันบ้างหรือเปล่า แต่นั่นก็ไม่สำคัญหรอก ตอนนี้มีแค่เปียโนเท่านั้นที่ฉันอยากจะคุยด้วย
♫
เปียโนโซนาต้าลำดับแล้วลำดับเล่าของบีโทเฟ่นดังขึ้นต่อเนื่องเพราะความเพลิดเพลินของฉันเอง
ก่อนที่เสียงเปียโนของฉันจะเริ่มโดนกลบด้วยเสียงคุยกันดังแซ่ดของคนรอบข้างที่พ่วงเสียงประกาศเข้ามาในโสตประสาทด้วย
[[ปิ่ม ปม ปาม ป๊งง~]]
[เริ่มซะแล้วสิ ♥]
[[อะแฮ่ม ขออภัยที่ทำให้รอนะครับ ผู้โดยสารทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่การเป็นตัวประกันของพวกผมนะคร้าบบ!]]
"...?!"
จังหวะนั้นเองที่ฉันยกนิ้วออกจากแป้นโดยสมบูรณ์ เพลงถูกหยุดสนิท แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ฉันได้รับรู้ถึงบรรยากาศที่อึดอัดรอบตัวฉันตอนนี้ คงเพราะไม่สนุกด้วย หงุดหงิดที่โดนขัดความเคลิบเคลิ้มไปตามเพลงด้วย
"นี่ นาย... ตัวประกันหมายความว่ายังไง?" ที่มีความหมายว่าหลอกฉันมาเจออะไรกันแน่
[น่า ไม่ต้องกังวลหรอก]
[[จำผลงานของพวกเราที่หอศิลป์แห่งชาติสัปดาห์ที่แล้วได้มั้ยเอ่ย?? ที่นี่เองก็จะมีชะตากรรมที่ไม่ต่างกันคร้าบบบ คืองี้ พวกเราไ...]]
คำตอบที่ไม่ได้ช่วยให้หายกังวลใจเท่าไหร่ถูกเปล่งดังคลอไปพร้อมเสียงประกาศอันน่าหนวกหูนั้น
[พวกเราเป็นคนนอกครับ ยังไงก็ไม่ส่งผลอยู่แล้ว ทว่า...]
ฉันเริ่มรู้สึกขี้เกียจไล่เค้นถามตานี่มากขึ้นเรื่อยๆ
[เราที่พาคุณกลับออกมาจากที่คนตายมาอยู่ในความฝันคนที่ไม่เคยพบคุณมาก่อนแบบนี้ ยังไงก็ต้องหาทางออกให้คุณกลับไปใช้ชีวิตจริงด้วยล่ะนะ ถูกมั้ยครับเหนือหัวของกระผม]
(ฮุฮุฮุ)
จู่ๆก็มีตัวละครอีกตัวถูกเพิ่มและสอดแทรกเข้ามาท่ามกลางความสับสน เสียงของเด็กสาวที่ให้กลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตเหนือจริงโต้ตอบด้วยการหัวเราะ (แฟรงก์ต้องตื่นเต้นแน่ๆ แฟรงก์ต้องตื่นเต้นแน่ๆ ฮุฮุฮุฮุ)
แม้จะเป็นการโต้ตอบที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่พวกฉันคุยกันอยู่เลยก็ตาม
"เอ่อ..."
[เอาเป็นว่าแปลว่าใช่ แต่ไม่ต้องกังวลนะ ผมจะคอย Assist คุณเอง ----]
เสียงของบุรุษสีขาวขาดช่วงที่ปลายเสียงไปเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะสัมผัสถึงการเข้าหาจากข้างหลัง
"ตื่นเสียนะครับ ต่อจากนี้คุณคือรามอน เคลมเพอเรอร์"
=============================ฉึก!!!====================================
"อั่ก....!"
ฉันสะดุ้งตื่นตัวเด้งขึ้นมาจากเตียง ที่ไม่ใช่แม้แต่เตียงของตัวเองด้วยซ้ำ ห้องของตัวเองก็ไม่ใช่
แต่ว่าทำไม.. ถึงมีรูปถ่ายฉันรับรางวัลและถ้วยต่างๆอยู่ตามจุดต่างๆของห้องด้วยนะ?
"ต่อจากนี้คุณคือรามอน เคลมเพอเรอร์..? แต่ฉันนามสกุลโดมานนา..."
เพื่อคลายความสงสัยก็ลุกขึ้นเพื่อไปสำรวจตามภาพและถ้วยรางวัลต่างๆ
RAMON KLEMPERER
Ramon Klemperer
R. Klemperer
เคลมเพอเรอร์
เคลมเพอเรอร์
และเคลมเพอเรอร์เต็มไปหมด
"...ชักน่ากลัวแล้วดิ บ้าน่า"
ดูเหมือนว่านี่ จะเป็นชีวิตครั้งที่สองของฉันที่มาแทนที่ใครสักคนล่ะ?
แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่านอกจากต้องปรับตัวเองให้เข้ากับชีวประวัติใหม่ที่ได้รับมาจากใครก็ไม่รู้ ฉันก็ต้องเรียนรู้วิทยาการที่ฉันพลาดไปประมาณ 70 ปีด้วย
====================DomanKlemperer the Pianist [2/2] -ended- ===========================
เย้
โตแล้ว จะเวิ่นออริยังไงก็ได้
หนีเจ็บทางใจจากโปรเจคมหาลัยอยู่ค่ะ
อยากเขียนมานานแล้วถึงจุดที่รามอนจู่ๆกลับมาจากการเป็นคุณตาจากสมัยสงครามโลกทั้งที่ควรตายไปแล้วได้ยังไง รวมไปถึงเนียนขายของเวิ่นโปรเจคออริซอมเนีย ซึ่งก็คือโปรเจคออริหลักของเราด้วยค่ะ
หวังว่าจะได้เวิ่นอะไรอีกหลายๆอย่างไปนานๆนะ
==================================
[Intersection]
"...นรถไ.......าไปซื้...."
"...าสิ แล้วมาแบ่งกันมั้ย?"
"ขอโทษครับ"
"อ๊ะ ขอโทษค่ะ"
ปิ๊ง ป่อง..
[[ท่านผู้โดยสารทุกคนโปรดทราบ เที่ยวรถไฟไปกลาสโกว์รอบ 9 นาฬิกา 15 นาที...]]
เสียงประกาศไม่คุ้นหูเลย
ไม่ใช่ในทางที่แย่นะ ออกจะนุ่มหูดีด้วยซ้ำ เพราะจากที่ที่ฉันใช้ชีวิตมาและจำได้ เสียงประกาศอะไรก็ตามจะออกอู้อี้และติดๆขัดๆด้วยเสียงรบกวนกว่านี้ ดังนั้นเลยไม่ชินน่ะ
รู้สึกตัวแน่นเป็นพิเศษหน่อยแฮะ
ย อย่าบอกนะว่าฉันน้ำหนักขึ้น
ไม่หรอกมั้ง ยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา
[คุณโดมาน ได้ยินมั้ยครับ?]
"อ๊ะ...เสียงนี้... นายคนนั้นใช่มั้ย อยู่ไหนน่ะ?!"
[อย่าเสียเวลาตามหาเลยว่าผมอยู่ไหน มองเห็นคุณหันซ้ายหันขวาไปมาเหมือนสุนักน่ารักๆแล้วตลกเป็นบ้าเลย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า]
"เฮ้ พาฉันมาทำอะไรที่นี่ เดี๋ยว ที่นี่ที่ไหน?"
ระหว่างที่ฉันพยายามกวาดสายตาซ้าย-ขวา บน-ล่างเพื่อตามหาเจ้าของเสียงที่จู่ๆก็ดังขึ้นมาในหัวฉันอย่างไร้ทิศทางก็ทำให้พบกับสภาพอาคารที่หาได้ยากจากสิ่งที่ฉันเคยเห็นและที่ที่ฉันเคยไป
จริงอยู่ว่าข้างๆตรงนั้น 2 - 3 ชั้นเป็นอาคารก่ออิฐแดง แต่ไม่เคยเห็นการใช้เหล็กขนาดใหญ่สานกันรองรับท้องฟ้ากระจกผืนใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย หน้าจอที่มีตัวอักษรเป็นแสงสีเลื่อนได้ก็ด้วย
พอดูให้ดี.. คนที่แต่งตัวในเครื่องแบบก็เหมือนจะไม่ได้คอยตามล่าหรือจับพวกฉันด้วย
ที่แบลงค์ไปเมื่อกี๊นี่คือถูกลักพาตัวมาต่างประเทศหรือเปล่านะ? แต่พวกเราในเวลาเดียวกันจะวิทยาการแตกต่างกันขนาดนี้เลยอย่างงั้นหรอ?
[อื้ม...ถ้าดูไม่ผิดล่ะก็ สถานีเซนต์ แพนเครียซล่ะมั้ง? ไม่รู้สิ ตัวจริงฉันก็ไม่เคยไป ฮะๆ]
"จะบอกว่าที่นี่ไม่ใช่ของจริงรึไง"
[ก็แล้วแต่คุณอยากจะตีความนะครับคุณโดมาน~]
ปลายทางมีเสียงหัวเราะนึกสนุกอีกครั้ง งานอดิเรกหมอนี่ต้องเป็นการปั่นหัวชาวบ้านให้หงุดหงิดเล่นแน่ๆ
"...ก่อนหน้านี้บอกว่าจะให้ฉันเล่นเปียโนใช่มั้ย"
[ถูกต้องครับผม ลองมองลงไปที่ชั้นล่างใต้บันไดคู่นั้นสิ เห็นเปียโนมั้ยเอ่ย?]
"..อ่าฮะ ของสาธารณะงั้นหรอ?"
[ถูกต้อง ไม่มีใครว่าคุณถ้าคุณอยากจะเล่น ยกเว้นเสียแต่เขาคนนั้นเองก็อยากเล่นแต่โดนคุณแย่ง] สิ้นเสียงก็มีหัวเราะอีกรอบ [อย่างไรก็ตาม ที่ที่นี้ไม่มีหรอกคนที่อยากเล่นน่ะ เพราะฉะนั้นเลยอยากให้คุณช่วยแสดงฝีมือและเปลี่ยนบรรยากาศของที่นี่หน่อย ♥ ]
"หึ" ฉันเผลอไม่ได้ที่จะพับแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย "มาเล้ย ไว้ใจฉันคนนี้"
[สมกับเป็นคนที่ตกรอบการคัดเลือกตัวแทนไปแข่งการประกวดโชแปงเพราะอายุไม่ถึงจริงๆเลยน้า ไว้ใจได้จริงๆด้วย!]
================================================
ผู้โดยสารทั้งหลายไหลสวนผ่านฉันไปเรื่อยๆระหว่างที่กำลังใช้สองเท้าก้าวไปตามทางเดินสู่บันไดคู่ที่เป็นเป้าหมายปลายทาง ทุกๆคนดูโคตรจะไม่มีชีวิตชีวาเลย ใบหน้าไม่มีอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น
เป็นตัวประกอบรึไงกัน?
แต่ทันทีที่ฉันนึกอย่างนั้น หางตาของฉันก็เหมือนตรวจจับบุคคลที่แตกต่างกันออกไปได้อีกคนในบรรดากระแสผู้โดยสาร
"?"
[เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ ถึงจะได้ยินมาว่าเล่นเปียโนเป็นก็เถอะ]
อย่างกับรู้ว่าฉันโดนเขาดึงความสนใจไป
"แต่เขา ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนคนอื่นที่ฉันเดินสวนเลยนะ"
[shhh.. ก็เพราะว่าเขาเป็นอย่างเดียวกันกับพวกเรายังไงล่ะครับ แต่ว่าพวกเราแค่ไม่ลงรอยกันนิดหน่อย]
"เดี๋ยวนะ ถ้าฉันตรวจจับเขาได้ เขาจะไม่รู้สึกถึงฉันที่เป็น...???? อะไรสักอย่างที่ไม่ได้เหมือนคนที่เหลือหรอกหรอ"
[ลูกเศรษฐีใหม่อย่างเขาเป็นเด็กใหม่น่ะ แถมดูจะมีเรื่องอื่นที่ติดใจเป็นพิเศษอยู่แล้วด้วย เพราะฉะนั้นวางใจได้ และเพราะงั้น ผมเลยอย่างยืมแรงคุณโดมานยังไงล่ะ]
ฉันเผลอถอนหายใจออกไปเฮือกนึง เขาจะหาว่าฉันโง่มั้ยนะที่ฉันไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่ตรงนี้ นอกจากรู้สึกตัวว่าเหมือนกำลังอยู่ในโลกจำลอง โลกหลังความตายจะเป็นอะไรก็ได้ล่ะมั้งบางที
"..แล้วคริสล่ะ ฉันจะได้เจอเขามั้ย?"
จู่ๆก็โพล่งความคิดตัวเองออกไปอย่างเถรตรงซะอย่างนั้น
[...หลังจากนี้อาจจะได้เจอล่ะนะ นั่นก็แล้วแต่ว่าเอฟเฟคของคุณจะทำได้แค่ไหนแล้วล่ะ]
"เฮ้! แบบนี้ไม่เข้าข่ายหลอกลวงหรือไง ไอพวกบอกข้อมูลสินค้าบริการไม่ครบ..!"
[ไม่ครบไม่ได้แปลว่าโกหกสักหน่อยนี่] น้ำเสียงปัดความผิดแบบที่แค่ฟังก็รู้ว่าปลายสายกำลังยักไหล่ประกอบอยู่แน่ๆ อดหงุดหงิดไม่ได้ แต่ในโลกน่าจะจำลองแห่งนี้ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน คงต้องเออออตามเขาไปก่อน [ยังคงรอฟังอยู่นะครับ คุณคนที่ควรจะเคยได้เป็นแชมป์ ♥ ]
พูดมากชะมัด...
นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดในใจ และโชคดีพอที่ไม่หลุดออกไปด้วยเหมือนคำถามที่ฉันมีต่ออดีตเพื่อนสนิท
สนิท...
.....สนิทหรือเปล่านะ?
====================================
ระหว่างที่คิดและต่อบทสนทนากับตัวเองในหัว สองขาของฉันก็เหมือนจะลุล่วงภารกิจในการพาตัวเองมาอยู่หน้าอัพไรท์เปียโนหลังที่หลบอยู่ใต้บันไดของสถานีรถไฟแห่งนี้
ว่าด้วยการจัดวาง ฉันเดาว่ามันอาจจะวางกระจายอยู่ตามตำแหน่งต่างๆด้วยอีก ดีจังเลยนะ เปียโนที่เล่นเมื่อไหร่ก็ได้ ที่ไหนก็ได้
และเป็นใครก็ได้...
ฉันหย่อนก้นตัวเองลงนั่งบนเก้าอี้บุหนัง มือขวากวาดไปตามด้านข้างของมันเพื่อหาลูกหมุนปรับระดับที่พอดีกับลำตัวครึ่งล่างของฉันเอง ก่อนจะประสานเข้ากับมือซ้ายแล้วยืดขึ้นบิดขี้เกียจพร้อมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
"ฟู่......... เอาล่ะ"
เพลงอะไรดีนะ
เพลงนี้ก็คงจะดี
นิ้วที่ไล้ไปตามแป้นบรรเลงอินโทรอันเป็นที่จดจำได้ง่าย เปียโนโซนาต้าลำดับที่17 "Tempest" ของบีโทเฟ่น
ถึงจะบอกว่าชอบเล่นเปียโนก็จริง แต่มันนานแค่ไหนกันแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้เล่นเปียโนจริงๆจังๆได้อย่างสบายใจไม่ต้องเตรียมตัวหนีแบบนี้
[...♫♬]
ไม่แน่ใจว่าปลายทางของเสียงพูดอะไรโต้ตอบฉันบ้างหรือเปล่า แต่นั่นก็ไม่สำคัญหรอก ตอนนี้มีแค่เปียโนเท่านั้นที่ฉันอยากจะคุยด้วย
♫
เปียโนโซนาต้าลำดับแล้วลำดับเล่าของบีโทเฟ่นดังขึ้นต่อเนื่องเพราะความเพลิดเพลินของฉันเอง
ก่อนที่เสียงเปียโนของฉันจะเริ่มโดนกลบด้วยเสียงคุยกันดังแซ่ดของคนรอบข้างที่พ่วงเสียงประกาศเข้ามาในโสตประสาทด้วย
[[ปิ่ม ปม ปาม ป๊งง~]]
[เริ่มซะแล้วสิ ♥]
[[อะแฮ่ม ขออภัยที่ทำให้รอนะครับ ผู้โดยสารทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่การเป็นตัวประกันของพวกผมนะคร้าบบ!]]
"...?!"
จังหวะนั้นเองที่ฉันยกนิ้วออกจากแป้นโดยสมบูรณ์ เพลงถูกหยุดสนิท แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ฉันได้รับรู้ถึงบรรยากาศที่อึดอัดรอบตัวฉันตอนนี้ คงเพราะไม่สนุกด้วย หงุดหงิดที่โดนขัดความเคลิบเคลิ้มไปตามเพลงด้วย
"นี่ นาย... ตัวประกันหมายความว่ายังไง?" ที่มีความหมายว่าหลอกฉันมาเจออะไรกันแน่
[น่า ไม่ต้องกังวลหรอก]
[[จำผลงานของพวกเราที่หอศิลป์แห่งชาติสัปดาห์ที่แล้วได้มั้ยเอ่ย?? ที่นี่เองก็จะมีชะตากรรมที่ไม่ต่างกันคร้าบบบ คืองี้ พวกเราไ...]]
คำตอบที่ไม่ได้ช่วยให้หายกังวลใจเท่าไหร่ถูกเปล่งดังคลอไปพร้อมเสียงประกาศอันน่าหนวกหูนั้น
[พวกเราเป็นคนนอกครับ ยังไงก็ไม่ส่งผลอยู่แล้ว ทว่า...]
ฉันเริ่มรู้สึกขี้เกียจไล่เค้นถามตานี่มากขึ้นเรื่อยๆ
[เราที่พาคุณกลับออกมาจากที่คนตายมาอยู่ในความฝันคนที่ไม่เคยพบคุณมาก่อนแบบนี้ ยังไงก็ต้องหาทางออกให้คุณกลับไปใช้ชีวิตจริงด้วยล่ะนะ ถูกมั้ยครับเหนือหัวของกระผม]
(ฮุฮุฮุ)
จู่ๆก็มีตัวละครอีกตัวถูกเพิ่มและสอดแทรกเข้ามาท่ามกลางความสับสน เสียงของเด็กสาวที่ให้กลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตเหนือจริงโต้ตอบด้วยการหัวเราะ (แฟรงก์ต้องตื่นเต้นแน่ๆ แฟรงก์ต้องตื่นเต้นแน่ๆ ฮุฮุฮุฮุ)
แม้จะเป็นการโต้ตอบที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่พวกฉันคุยกันอยู่เลยก็ตาม
"เอ่อ..."
[เอาเป็นว่าแปลว่าใช่ แต่ไม่ต้องกังวลนะ ผมจะคอย Assist คุณเอง ----]
เสียงของบุรุษสีขาวขาดช่วงที่ปลายเสียงไปเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะสัมผัสถึงการเข้าหาจากข้างหลัง
"ตื่นเสียนะครับ ต่อจากนี้คุณคือรามอน เคลมเพอเรอร์"
=============================ฉึก!!!====================================
"อั่ก....!"
ฉันสะดุ้งตื่นตัวเด้งขึ้นมาจากเตียง ที่ไม่ใช่แม้แต่เตียงของตัวเองด้วยซ้ำ ห้องของตัวเองก็ไม่ใช่
แต่ว่าทำไม.. ถึงมีรูปถ่ายฉันรับรางวัลและถ้วยต่างๆอยู่ตามจุดต่างๆของห้องด้วยนะ?
"ต่อจากนี้คุณคือรามอน เคลมเพอเรอร์..? แต่ฉันนามสกุลโดมานนา..."
เพื่อคลายความสงสัยก็ลุกขึ้นเพื่อไปสำรวจตามภาพและถ้วยรางวัลต่างๆ
RAMON KLEMPERER
Ramon Klemperer
R. Klemperer
เคลมเพอเรอร์
เคลมเพอเรอร์
และเคลมเพอเรอร์เต็มไปหมด
"...ชักน่ากลัวแล้วดิ บ้าน่า"
ดูเหมือนว่านี่ จะเป็นชีวิตครั้งที่สองของฉันที่มาแทนที่ใครสักคนล่ะ?
แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่านอกจากต้องปรับตัวเองให้เข้ากับชีวประวัติใหม่ที่ได้รับมาจากใครก็ไม่รู้ ฉันก็ต้องเรียนรู้วิทยาการที่ฉันพลาดไปประมาณ 70 ปีด้วย
====================
เย้
โตแล้ว จะเวิ่นออริยังไงก็ได้
หนีเจ็บทางใจจากโปรเจคมหาลัยอยู่ค่ะ
อยากเขียนมานานแล้วถึงจุดที่รามอนจู่ๆกลับมาจากการเป็นคุณตาจากสมัยสงครามโลกทั้งที่ควรตายไปแล้วได้ยังไง รวมไปถึง
หวังว่าจะได้เวิ่นอะไรอีกหลายๆอย่างไปนานๆนะ
Comments
Post a Comment